วิธีฝึกสุขภาพจิตให้แข็งแรง ตามขั้นเหล่านี้
สุขภาพ

วิธีฝึกสุขภาพจิตให้แข็งแรง ตามขั้นเหล่านี้

ปัจจุบันความเครียดไม่ได้เป็นเรื่องไกลตัวอีกต่อไปเพราะด้วยสภาพสังคม เศรษฐกิจ รวมถึงสภาพแวดล้อมรอบตัวก็อาจก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพจิตได้ทั้งสิ้น และปัญหาสุขภาพจิตสามารถเกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศ ทุกวัย เมื่อสภาพจิตใจอ่อนแอ หลายคนสามารถตั้งสติ ไม่ปล่อยให้ความเครียดหรือความคิดด้านลบเข้าครอบงำและสามารถกลับมามีสุขภาพจิตที่ดีเหมือนเดิมได้ แต่หลายคนรับมือกับสุขภาพจิตที่ย่ำแย่ได้ไม่ดีนัก จึงทำให้เกิดเรื่องร้าย ๆ ขึ้นกับตัวเองหรือคนรอบข้าง

การฝึกสุขภาพจิตให้มีความแข็งแรงจึงเป็นสิ่งที่คนยุคใหม่ควรให้ความสำคัญ เพราะเราไม่สามารถรู้ล่วงหน้าได้ว่าในช่วงใดของชีวิตที่เราจะมีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพจิต ซึ่งวิธีการฝึกสุขภาพจิตให้แข็งแรงสามารถทำได้ดังนี้

สุขภาพจิตแข็งแรงได้ ดังนี้

ศึกษาตัวเองให้ดี ก่อนหาวิธีรับมือกับปัญหานั้น เราควรทราบถึงลักษณะของตนเองก่อน ซึ่งวิธีที่ง่ายที่สุดคือ การลงมือจดในสิ่งที่ทำให้รู้สึกชอบหรือไม่ชอบ รวมถึงข้อดีหรือข้อด้อย หลายคนต้องใช้เวลานานกว่าจะรู้ถึงความเป็นตัวเอง บางคนอาจจำเป็นต้องใช้เวลานาน แต่ไม่ว่าจะใช้เวลามากน้อยเพียงใด ก็จะทราบถึงลักษณะตัวตนของตนเองได้ในที่สุด

ฝีกสติ สุขภาพจิตที่แข็งแรงเกิดขึ้นได้จากการฝึกตัวเองให้มีสติอยู่เสมอ หลายคนปล่อยอารมณ์ไปโดยไม่รู้จักควบคุมให้ดี ทำให้อารมณ์แปรปรวนได้ง่าย และเมื่อหากไม่ฝึกสติให้ดี อาจทำให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บตามมาได้ เช่น ความดันโลหิตสูงหรือเส้นเลือดในสมองแตก เป็นต้น วิธีการฝึกสติง่าย ๆ ควรเริ่มที่การนั่งสมาธิวันละ 5 – 10 นาที โดยต้องไม่ปล่อยให้ความคิดฟุ้งซ่าน หรือใช้วิธีดีดยางใส่แขนเมื่อจิตคิดลบหรือปล่อยอารมณ์โกรธเข้าครอบงำ ซึ่งเป็นที่คุณบัณฑิต อึ้งรังษี วาทยากรไทยผู้ประสบความสำเร็จในระดับโลกแนะนำไว้

ปรับทัศนะคติเปลี่ยนคำติ ฝึกเป็นคนที่มีสุขภาพจิตดีด้วยการมองโลกในแง่ดี โดยปกติแล้วคนเราย่อมรู้สึกโกรธเมื่อมีคนพูดติในเรื่องใดก็ตาม แต่สำหรับผู้ที่มีสุขภาพจิตที่ดี จะกลั่นกรองคำติดั่งกล่าวและแยกแยะให้ออกว่าคำติดังกล่าวเป็นการติเพื่อให้เราปรับปรุงแก้ไขเรื่องต่าง ๆ ให้ดีขึ้น หรือเป็นคำติที่ไม่สร้างสรรค์ ซึ่งในกรณีที่เป็นคำติที่ไม่สร้างสรรค์ การไม่สนใจคำตินั้นเป็นวิธีที่ดีที่สุด เพราะเป็นการไม่ให้ค่าต่อคำพูดอันไม่สร้างสรรค์

การดูแลสุขภาพให้แข็งแรง ทำตัวเองให้มีความสุขและยอมรับตัวเอง จะช่วยให้คุณมีสุขภาพจิตที่ดีขึ้นได้ นอกจากนี้ต้องยอมรับว่าแม้จะฝึกสุขภาพจิตให้แข็งแรงมาเป็นอย่างดีก็อาจเกิดความคิดด้านลบได้ ดังนั้นหากเริ่มรู้ตัวว่าไม่สามารถจัดการความคิดหรือความรู้สึกได้ควรพบจิตแพทย์เพื่อขอคำแนะนำที่ดีที่สุด ซึ่งจะช่วยให้คุณผ่านพ้นปัญหาได้ดีกว่า

สุขภาพจิตแข็งแรงได้ ดังนี้