
อยากสุขภาพดีต้องเพิ่มการเผาผลาญพลังงาน
เมื่อเรารับประทานอาหารทุกครั้ง จะมีการได้รับแคลอรี่หรือพลังงานเข้าไป ยกเว้นเพียงน้ำเปล่าเท่านั้นที่ไม่มีแคลอรี หากได้รับพลังงานมากเกินไปเป็นประจำ จะทำให้เพิ่มไขมันสะสมภายในหลอดเลือดและอวัยวะต่าง ๆ เพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหลายชนิด เช่น ความดันสูง ไขมันในเลือดสูง เบาหวาน และโรคอ้วนได้
วิธีการเผาผลาญพลังงานที่ถูกต้อง
1. การออกกำลังกาย
การผสมผสานวิธีออกกำลังกายหลายๆแบบเข้าด้วยกัน ทั้งหนักและเบา หรือแอโรบิกที่เน้นความรวดเร็วเช่น การวิ่ง กระโดดเชือก ผสมกับการเพิ่มความแกร่งหรือเสริมความแข็งแรงกล้ามเนื้อ เช่น ยกตุ้มน้ำหนัก จะทำให้อัตราการเผาผลาญมากกว่าการทำแบบเดียว
2. การดื่มน้ำชาเขียว
เครื่องดื่มหลายชนิดมีสรรพคุณเพิ่มการเผาผลาญได้ โดยเฉพาะชาเขียวมีสารที่ชื่อว่า catechin ที่มีการวิเคราะห์ว่าช่วยในการเพิ่มอัตราเผาผลาญพลังงานของร่างกายได้มากขึ้น ทั้งนี้ ควรจะเป็นชาเขียวแบบผง ที่ไม่ได้เป็นสูตรพร้อมดื่มสำเร็จรูปผสมน้ำตาล
3. ไม่อดอาหาร
หลายคนเข้าใจผิดคิดว่า การอดอาหารจะทำให้ควบคุมพลังงานได้ดี ทำให้บอกต่อ ๆ กันว่าเป็นวิธีลดความอ้วนที่เห็นผลเร็ว แต่ทางที่จริงแล้ว การอดอาหารจะทำให้ร่างกายเข้าใจว่า อยู่ในภาวะขาดแคลน จึงต้องรักษาแหล่งสะสมพลังงานอย่างไขมันไว้ จึงลดการเผาผลาญไปด้วย ซึ่งจะทำให้น้ำหนักไม่ลดลงอย่างที่หวัง และยังทำให้รู้สึกอ่อนเพลียไม่สดใสด้วย
4. รับประทานอาหารรสจัด
อาหารที่เผ็ดร้อน จะมีการใส่พริกและเครื่องเทศอยู่หลายชนิด เช่น กระเทียม พริกไทย ซึ่งจะมีผลทำให้กระบวนการเผาผลาญของร่างกายเพิ่มสูงขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม คนที่มีปัญหาโรคกระเพาะและลำไส้อักเสบต้องหลีกเลี่ยงเพราะอาจทำให้เนื้อเยื่อเป็นแผลอักเสบได้
5. การปรับความถี่ในการรับประทานอาหาร
ควรรับประทานอาหารแบบคนท้อง คือ รับประทานครั้งละน้อย ๆ แต่วันละหลายครั้ง โดยห่างกันประมาณ 3 ชั่วโมง วันละ 4-5 มื้อ เน้นที่อาหารย่อยง่ายและมีไขมันต่ำ วิธีนี้จะทำให้ควบคุมระบบการเผาผลาญร่างกายให้เป็นไปได้อย่างต่อเนื่องดียิ่งขึ้น
6. พกธัญพืชพร้อมทาน
ในร้านสะดวกซื้อมีธัญพืชแท่งพร้อมทาน สำหรับการพกพาง่าย ซึ่งจะมีการคำนวณแคลอรี่มาเป็นอย่างดี สามารถใช้รับประทานแทนอาหารได้ เพื่อกระตุ้นการเผาผลาญเป็นระยะ ทั้งนี้ควรเลือกสูตรที่มีน้ำตาลและเกลือในสัดส่วนที่ต่ำด้วย
จะเห็นได้ว่าเทคนิคในการเผาผลาญพลังงาน มีทั้งการออกกำลังกายและเลือกบริโภคอาหารที่เหมาะสม เพียงทำตามหลักการที่ถูกต้อง ก็จะทำให้คุณปลอดจากโรคภัย และมีสุขภาพดีได้อย่างแน่นอน

